วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อน

สูตรอาหารไทย | แกงส้มปลาช่อนสูตรอาหารไทย | แกงส้มปลากระพงทอด

เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* น้ำพริกแกงส้ม 2 ช้อนโต๊ะ
* ผักกระเฉดหั่นเป็นท่อนๆ 2 ถ้วยตวง
* ปลาช่อน 1 ตัว (น้ำหนักประมาณ 400 - 600 กรัม หรือใช้ปลาอื่นก็ได้)
* น้ำตาลโตนด 2 ช้อนชา (หรือใช้น้ำตาลปี๊บแทนก็ได้)
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะขามเปี้ยก 3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำต้มกระดูกหมู 3 ถ้วยตวง (หรือใช้น้ำเปล่าแทนก็ได้)
* ผักสดอื่นๆ (ถ้าต้องการใส่เพิ่ม เช่น ถั่วฝักยาว, ข้าวโพดอ่อน, ดอกแค, อื่นๆ)
 น้ำพริก + เครื่องแกง : น้ำพริกแกงส้ม 
ส่วนผสม น้ำพริก + เครื่องแกง :
• พริกแห้งเม็ดใหญ่สีแดง แกะเมล็ดออกแช่น้ำให้นุ่ม 6 เม็ด
• หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
• เนื้อปลานึ่งหรือกุ้งนึ่ง 50 กรัม
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• น้ำพริกเผา 1 ช้อนชา
  วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ทำความสะอาดปลา (ขอดเกล็ด+ควักไส้ออก) หั่นปลาเป็นท่อน หรือจะต้มทั้งตัวก็ได้
2. ใส่น้ำซุปหรือน้ำเปล่าลงในหม้อ นำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลางจนเดือดจึงใส่น้ำพริกแกงส้มลงไป
3. รอจนน้ำเดือดอีกครั้งจึงใส่ปลาลงไปต้ม ทิ้งไว้สักพัก อย่าเพิ่งคนเพราะจะทำให้เหม็นคาว รอจนปลาเกือบสุก จึงปรุงรสด้วยน้ำตาล, น้ำปลาและน้ำมะขามเปียก (กรณีต้องการทำปลาทอด ก็นำปลาไปทอดจนเหลืองกรอบ ก่อนที่จะนำมาใส่ในแกงส้ม)
4. พอน้ำเริ่มเดือดอีกครั้งจึงใส่ผักสดต่างๆที่เตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากัน ต้มต่ออีกสักพักจนผักสุก จึงปิดไฟ
5. ตักใส่ถ้วย เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ




แกงคั่วสัปปะรดหอยแมลงภู่

สูตรอาหารไทย : แกงคั่วสัปปะรดหอยแมลงภู่

2 ช้อนโต๊ะ
* หอยแมลงภู่ 2 ถ้วยตวง (หรือกุ้ง 8 - 10 ตัว)
* สับปะรดหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 80 กรัม
* กะทิ 2 ถ้วยตวง
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำพริก + เครื่องแกง : น้ำพริกแกงคั่ว 
ส่วนผสม น้ำพริก + เครื่องแกง :
• พริกแห้งเม็ดใหญ่ แกะเมล็ดออกแช่น้ำให้นุ่ม 5 เม็ด
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนชา
• ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียม 20 กลีบ
• หอมแดงซอย 10 หัว
• กะปิ 1 ช้อนชา
   วิธีทำทีละขั้นตอน
1 ล้างทำความสะอาดหอยแมลงภู่ (หรือกุ้ง ) แกะเนื้อออกจากฝา และสะเด็ดน้ำให้แห้ง
2 ตั้งกระิทะบนไฟร้อนปานกลาง ผัดน้ำพริกแกงคั่วกับกะทิพอแตกมันจนหอม ใส่สับปะรด ลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากัน ทิ้งไว้สักพัก
3 ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะขามเปียก ปรับรสตามความชอบแล้วจึง ใส่เนื้อหอยแมลงภู่ (หรือกุ้ง) ทิ้งไว้สักครู่จนเนื้อสุกดีจึงปิดไฟ
4. ตักใส่ถ้วย เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ต้มโคล้งปลากรอบ

สูตรอาหารไทย : ต้มโคล้งปลากรอบ

* ปลากรอบรมควันหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 250 กรัม (หรือเนื้อปลาสดก็ได้)
* น้ำมะขาม 2 ช้อนโต๊ะ
* พริกแห้งหั่น 3 เม็ด (ปรับเพิ่ม/ลด ตามความชอบ)
* น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
* หอมแดง 3-5 ลูก (นำไปเผาไฟและทุบพอแตก)
* ตะไคร้ 2 ต้น (หั่นยาวประมาณ 2 นิ้วและทุบพอแตก)
* มะเขือเทศหั่น 50 กรัม
* น้ำตาล 1 ช้อนชา
* ข่าหั่นเป็นแว่นๆ 8 ชิ้น
* ใบมะกรูด 5 ใบ
* ใบกะเพรา 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำซุป 2 ถ้วยตวง (หรือน้ำเปล่า)
* ใบมะขามอ่อน (สำหรับแต่งหน้า)
 วิธีทำทีละขั้นตอน
1. นำน้ำซุปใส่หม้อและไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง ใส่ข่า, ตะไคร้ และหอมแดง รอจนน้ำซุปเดือดจึงใส่ปลากรอบลงไป
2. ปรุงรสด้วย น้ำมะขาม, น้ำปลาและน้ำตาล แล้วจึงใส่พริกแห้ง, มะเขือเทศ, ใบกะเพราและ ใบมะกรูด (ฉีกก่อนแล้วค่อยใส่ลงไปในซุป) รอจนน้ำซุปเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ
3. ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยใบมะขามอ่อน เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ผัดฉ่ากุ้ง

สูตรอาหารไทย | ผัดฉ่ากุ้ง

กุ้งขนาดปานกลาง 6 ตัว (ล้างทำความสะอาดและปอกเปลือก)
* พริกขี้หนู 8-12 เม็ด (ปรับลด/เพิ่ม ตามความชอบ)
* หอมแดง* หั่น 1 ช้อนโต๊ะ
* ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
* พริกไทยเม็ด 2 ช้อนชา
* รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา
* กระชายซอย 1/4 ถ้วยตวง
* พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ 3-5 เม็ด
* ใบโหระพา 1/2 ถ้วยตวง
* ใบมะกรูด 3 ใบ, ฉีกเป็นชิ้นๆ
* พริกไทยอ่อน 3-4 ช่อ, * น้ำซุป 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา, * น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ, * น้ำมันพืช
วิธีทำทีละขั้นตอน
1. โขลก พริกขี้หนู, หอมแดง, กระเทียม, ตะไคร้, พริกไทยเม็ดและรากผักชีเข้าด้วยกัน จนละเอียดและเป็นเนื้อเดียวกัน
2. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง ใส่น้ำพริกที่โขลกลงไปผัดจนหอม จากนั้นจึงใส่กุ้งลงไปผัดจนเกือบสุก
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำตาล และน้ำมันหอย เร่งไฟให้แรงขึ้น ใส่กระชาย, พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ, ใบโหระพา, ใบมะกรูด, พริกไทยอ่อนและน้ำซุป ผัดอย่างรวดเร็วจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี จึงปิดไฟ
4. ตักใส่จาน เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

Daily News Online หน้าบันเทิง ก็อซซิป ดวงชะตา'คนบันเทิง'ปีกระต่าย

Daily News Online หน้าบันเทิง ก็อซซิป ดวงชะตา'คนบันเทิง'ปีกระต่าย

Daily News Online ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำงวดวันที่ 30 ธันวาคม 2553

Daily News Online ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำงวดวันที่ 30 ธันวาคม 2553

Daily News Online ข่าวหน้า 1 7คนไทยนอนคุกยาวรอศาลตัดสินข้อหาฉกรรจ์

Daily News Online ข่าวหน้า 1 7คนไทยนอนคุกยาวรอศาลตัดสินข้อหาฉกรรจ์

Daily News Online ข่าวหน้า 1 แจ้งข้อหาหนักสาวซีวิคทำคนตาย-บาดเจ็บ

Daily News Online ข่าวหน้า 1 แจ้งข้อหาหนักสาวซีวิคทำคนตาย-บาดเจ็บ

เมืองชลเกมส์...กีฬาคนพิการ ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 30 ธันวาคม 2553

ภาพ สัญลักษณ์ เมืองชลเกมส์

ชลบุรีพร้อมจัดศึกกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ ๒๙ “เมืองชลเกมส์” ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๗ ม.ค.๕๔ ระบุปรับปรุงสนามทำทางลาด และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน ขณะที่พิธีเปิด-ปิด ก็ยิ่งใหญ่อลังการแน่นอน จัดชิงชัยกีฬา ๑๘ ชนิด มีปลาฉลาม “สามมุก-จอมเทียน” เป็นตัวนำโชค นายพีระ ฟองดาวิรัตน์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ และจับสลากแบ่งสายการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ ๒๙ “เมืองชลเกมส์” จังหวัดชลบุรี ครั้งที่ ๑/๒๕๕๓ โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายสนธยา คุณปลื้ม นายกสมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี และผู้แทนจากสมาคมกีฬาฯ ร่วมประชุม ที่ ห้องประชุมเทพลีลาบอลรูม รร.เอสซีปาร์ค กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๒๗ ธ.ค. สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า จ.ชลบุรี ได้เตรียมความพร้อมของการจัดการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ ๒๙ “เมืองชลเกมส์” ได้ปรับปรุงสนามแข่งขันต่อจากการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ ๓๙ “ชลบุรีเกมส์” โดยเพิ่มเติมทางลาดชันสำหรับขึ้น-ลง รวมถึงการติดตั้งราวจับในห้องน้ำสำหรับคนพิการด้วย ด้านสนามแข่งขันและฝึกซ้อม, ที่พักนักกีฬาและเจ้าหน้าที่, การคมนาคมขนส่ง, การรักษาความปลอดภัย, แพทย์และพยาบาล ฯลฯ ก็เตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว
นายสนธยา กล่าวว่า จ.ชลบุรี จะทำทุกอย่างให้ทุกคนเห็นถึงศักยภาพและพลังของคนพิการที่สามารถเล่นกีฬาได้อย่างคนปกติทั่วไป งบประมาณในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ตั้งรวมไว้กับงบประมาณของ “ชลบุรีเกมส์” จำนวนกว่า ๒๐๐ ล้านบาท เชื่อมั่นว่า “เมืองชลเกมส์” จะยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีเทียบเท่า “ชลบุรีเกมส์” อย่างแน่นอน ส่วนพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันจะจัดขึ้นที่อาคารกรีฑาในร่ม พัทยา ซึ่งรับรองว่ายิ่งใหญ่และอลังการอย่างแน่นอน ซึ่งช่วงแข่งขันวันที่ ๒๓-๒๗ ม.ค.๕๔ จะถ่ายทอดสดทางสถานีกีฬา “ที-สปอร์ต” และทางเคเบิล ทีวีใน จ.ชลบุรี
นายณัฐวุฒิ เรืองเวส ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กล่าวว่า กกท.และจังหวัดชลบุรี กำหนดวันตรวจระดับความพิการ ก่อนการประชุมผู้จัดการทีมของแต่ละกีฬา โดยนักกีฬาประเภทพิการทางหูและนักกีฬาพิการทางปัญญา ไม่ต้องเดินทางมาตรวจระดับความพิการฯ โดยให้เดินทางถึงก่อนวันประชุมผู้จัดการทีม ๑ วัน หรือตามความเป็นจริงในการเดินทาง รวมทั้ง กกท.ได้ดำเนินการจัดทำประกันอุบัติเหตุให้ความคุ้มครองชีวิตกับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการแข่งขันฯ กับ บริษัทฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) โดยมีระยะเวลาคุ้มครอง ๑ เดือน ระหว่างวันที่ ๓ ม.ค.-๒ ก.พ.๕๔
ส่วนการจับสลากแบ่งสายการแข่งขัน ฟุตบอล (หู) แบ่งเป็น ๔ สาย ประกอบด้วย สายที่ ๑ นครราชสีมา, สุโขทัย, นครนายก, สายที่ ๒ ตรัง, ปัตตานี, ปราจีน, สายที่ ๓ ยะลา, กรุงเทพฯ, ลำปาง และสายที่ ๔ เชียงใหม่, สงขลา, นครสวรรค์ ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ ๒๙ “เมืองชลเกมส์” จัดชิงชัยกีฬา ๑๘ ชนิด ได้แก่ กรีฑา, โกลบอล, เซปักตะกร้อ, เทเบิลเทนนิส, บอคเซีย, แบดมินตัน, เปตอง, ฟุตบอล (หู), ฟุตบอล (ตา), ยกน้ำหนัก, ยิงปืน, ยิงธนู, ยูโด, วอลเลย์บอล นั่ง-ยืน, ว่ายน้ำ, วีลแชร์เทนนิส, วีลแชร์บาสเกตบอล และวีลแชร์ฟันดาบ โดยมีปลาฉลาม “สามมุก” และ “จอมเทียน” เป็นตัวนำโชคประจำการแข่งขัน (บ้านเมืองออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๘ ธ.ค.๒๕๕๓)
เพิ่มเติม เว็บไซต์: ไม่ระบุ อีเมล์ที่ติดต่อได้: ไม่ระบุ โทรศัพท์: ไม่ระบุ ผู้ติดต่อ/รับเรื่อง: ไม่ระบุ ที่มาของข่าว: บ้านเมืองออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๘ ธ.ค.๒๕๕๓ ผู้ฝากประกาศ: ไม่ระบุ วันที่โพสต์: 30 ธันวาคม 2553

ลั่นกลองรับปีใหม่ ฮ.๑๐๐ ลำรถกู้ชีพหมื่นคัน ...ป้องกันพิการ 30 ธันวาคม 2553


สธ.ลั่นกองรบอุบัติเหตุช่วง ๗ วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ จัดเฮลิคอปเตอร์ ๑๐๐ ลำ รถกู้ชีพกว่า ๑ หมื่นคัน เตรียมกู้ชีพฉุกเฉินรับมืออุบัติเหตุทั่วประเทศ ด้านกาชาดเร่งรับบริจาคเลือดสำรอง “ปู่จิ้น” ตั้งเป้าลดตาย ๑๐ เปอร์เซ็นต์ กำชับทุกจังหวัดกวดขันจราจร เน้นถนนสายรองป้อง จยย.ซิ่ง ทางด้าน “ฮู” แฉ ไทยเหลวป้องอุบัติเหตุ ติดอันดับ ๑๐๖ โลก เฉลี่ยสังเวยปีละ ๑๒,๐๐๐ คน เจ็บ-พิการอีกนับล้านรายต่อปี ขณะที่คณะทัวร์ครูนครปฐมหวิดตายหมู่อีก รถตู้หลิกคว่ำขณะท่องเที่ยวเลย เหตุคนขับหลับใน หามส่งโรงพยาบาล ๗ ราย
สธ.พร้อมรับอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่ - เมื่อวันที่ ๒๗ ธ.ค.๕๓ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวแถลงข่าวความพร้อมรับมืออุบัติเหตุปีใหม่ ๒๕๕๔ เนื่องใน ๗ วันอันตรายตั้งแต่ ๒๙ ธ.ค.๕๓-๔ ม.ค.๕๔ ว่า ทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือกับอุบัติเหตุช่วงวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากปีที่ผ่านมา พบว่า สถานการณ์ดังกล่าวยังน่าห่วง โดยในปี ๒๕๕๒ พบว่า มีประชาชนประสบอุบัติเหตุและบาดเจ็บ จำนวน ๔,๑๐๗ ราย เสียชีวิต ๓๖๗ ราย ขณะที่ในปี ๒๕๕๓ มีผู้ประสบอุบัติเหตุและบาดเจ็บจำนวน ๓,๘๒๗ เสียชีวิต ๓๔๗ ราย โดยส่วนมากเกิดจากการขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วไม่สวมหมวกนิรภัย และขับรถยนต์ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย รองลงมาเกิดจากสาเหตุที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขับรถเร็ว หรือทั้ง ๒ อย่าง นอกจากนี้ ก็มีเรื่องปัญหาง่วงและหลับใน โดยทาง สธ.ได้มีนโยบายให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศมีการเตรียมความพร้อมสำหรับการรับมือกับอุบัติเหตุทั้งหมด ๘๗๕ แห่ง โดยเตรียมทั้งห้องฉุกเฉิน และอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่จำเป็น อีกทั้งมีการเปิดบริการรับแจ้งเหตุ ฉุกเฉิน ๒๔ ชม.ผ่านสายด่วน ๑๖๖๙ และได้เตรียมทีมกู้ชีพฉุกเฉินทั้งหมด ๗,๖๘๐ หน่วย มีบุคลากรสำหรับปฏิบัติหน้าที่ ๑๗๐,๒๐๕ คน มีเฮลิคอปเตอร์คอยบริการ จำนวน ๑๐๐ ลำ และรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน จำนวน ๑๐,๒๘๒ คัน ทั้งนี้ ภายหลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุผ่านสายด่วน ๑๖๖๙ ก็จะแจ้งต่อไปยังหน่วยแพทย์ฉุกเฉินให้ไปถึงยังจุดเกิดเหตุทั้งภายในเวลา ๑๐ นาที โดยตั้งเป้าว่าควรทำได้ในเกณฑ์ดังกล่าวที่กำหนดให้ได้ราว ๗๕ เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ยังได้ใช้มาตรการในการป้องกันและลดอุบัติเหตุให้ครอบคลุมทั้งยานพาหนะ ผู้ขับขี่ และถนน โดยในด้านยานพาหนะกำหนดให้มีการเพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยให้มีคุณภาพ เช่น ด้านการมีหมวกและเข็มขัดนิรภัย มีระบบเบรกที่ดี ซึ่งทางผู้ขับขี่ต้องมีการตรวจเช็คสภาพก่อนใช้งานสำหรับในกรณีรถสาธารณะ หรือรถบริการทัศนาจรนั้น กฎหมายกำหนดให้คนขับขี่ไม่ควรขับต่อเนื่องเกิน ๔ ชั่วโมง ยกเว้นได้รับการนอนหลับพักผ่อน ๓๐ นาที และในกรณีที่ต้องขับต่อเนื่องในระยะไกลกว่า ๔๐๐ กม. ก็ต้องมีผู้ขับ ๒ คน ผลัดกันขับ
ด้าน น.พ.ชาตรี เจริญชีวกุล เลขาธิการการ สพฉ.กล่าวว่า สำหรับการบริการของรถกู้ชีพฉุกเฉินทั้งหมดนั้นจะมีประจำในเส้นทางหลักๆ เช่น ทางหลวงขนาดใหญ่ที่มีผู้สัญจรจำนวนมาก อาจเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ ส่วนเฮลิคอปเตอร์จำนวน ๑๐๐ ลำนั้น จะใช้ในกรณีที่รถกู้ชีพไปไม่ทัน เช่น จุดเกิดเหตุอยู่ไกล หากใช้รถต้องใช้เวลานานกว่า ๑-๒ ชม.
กาชาดฯ รับบริจาคเลือดใช้ช่วงปีใหม่ - นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ ก่อนเที่ยวเกี่ยวเพื่อนบริจาคเลือดก่อนปีใหม่ ดื่มไม่ขับกลับปลอดภัย ร่วมด้วยนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อธิบดีกรมคุมประพฤติ โดยทำพิธีปล่อยขบวนพาเหรด รณรงค์ประชาสัมพันธ์โครงการ ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ทั้งนี้ ได้ร่วมกับหลายองค์กร ภาครัฐและเอกชน ร่วมรณรงค์โครงการเพื่อเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคโลหิตสำรองให้แก่ผู้ป่วย ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ และสร้างสำนึกขับขี่ปลอดภัย ดื่มไม่ขับเพื่อลดอุบัติเหตุ ที่มักจะเกิดขึ้นในช่วง ๗ วันอันตราย เทศกาลปีใหม่นี้ ระหว่างวันที่ ๑๕ ธ.ค.๕๓ ถึง ๙ ม.ค.๕๔ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการบริจาคโลหิตในกรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถบริจาคได้ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย หรือบริจาคได้ที่หน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่
“ชวรัตน์” ตั้งเป้าลดตาย ๑๐ เปอร์เซ็นต์ - นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ และการแพร่ระบาดของยาเสพติดในช่วงปีใหม่ว่า ตนสั่งการเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุในที่ประชุมกระทรวงมหาดไทย โดยเป้าหมายเบื้องต้นตนอยากให้ยอดอุบัติเหตุลดลง ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ส่วนทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ตั้งเป้าไว้ ๕ เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามมาตรการป้องกันต้องใช้กฎหมายเข้าไปควบคุม อาทิ จัดตั้งจุดตรวจบูรณาการและลดอุบัติเหตุทางถนน เน้นให้ทุกอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัดทุกท้องที่ โดยผู้ว่าฯ ต้องเข้าไปดูแล ส่วนเรื่องการทะลักของยาเสพติดในช่วงปีใหม่ต้องมีการกวดขันให้เต็มที่
จับตาถนนสายรองจยย.เกิดอุบัติเหตุสูง - นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง มหาดไทย กล่าวที่ จ.ภูเก็ต ระหว่างเดินทางมาเป็นประธานการประชุมสัมมนาผู้ประกอบการสถานบริการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.๒๕๐๙ ถึงมาตรการในการดูแลความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ประจำปี ๒๕๕๔ ว่า เรื่องของการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในช่วงปีใหม่ถือเป็นนโยบายสำคัญที่จะต้องดำเนินการ และจะต้องรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุให้เหลือน้อยที่สุด ในขณะนี้ได้มีการสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันป้องกันอุบัติเหตุอย่างเข้มข้น ซึ่งในส่วนของอุบัติเหตุบนถนนสายหลักนั้นไม่ห่วงมากนัก เนื่องจากมีเจ้าหน้าตำรวจพร้อมสนธิกำลัง ทั้ง อส.และ อพปร.ของแต่ละท้องถิ่น ในการตั้งด่านตรวจ และด่านป้องกัน โดยการจัดเจ้าหน้าที่ประจำเพื่อเป็นการเฝ้าระวังอย่างเข็มข้นตลอด ๒๔ ชั่วโมงในช่วงดังกล่าว ส่วนที่น่าเป็นห่วงจะเป็นอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นบนถนนสายรอง ซึ่งเป็นถนนที่จะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้รถจักรยานยนต์ ซึ่งผู้ขับขี่ส่วนใหญ่จะมีอาการเมาสุราและขับขี่โดยไม่เคารพกฎจราจร ประกอบกับถนนสายรองจะไม่มีการตั้งด่านตรวจ และผู้ที่กระทำผิดมักใช้ถนนเส้นนี้ในการหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่ จึงทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นสูง
สั่งเฝ้าระวังเหตุไฟไหม้ช่วงปีใหม่ ๒๔ ชม.- นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคมของทุกปี เป็นช่วงที่มีการจัดงานเฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ โดยเฉพาะช่วงเวลาเที่ยงคืนของวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ เป็นช่วงการนับเวลาถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ มีการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้โดยง่าย รวมทั้งการสัญจรของประชาชนในห้วงเวลาดังกล่าวอย่างคับคั่ง ทำให้เกิดอุบัติภัยจากการสัญจรทางบกและทางน้ำ กระทรวงมหาดไทยจึงให้จังหวัดประสานหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน ที่จะจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลฯ ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ตลอดจนกำหนดมาตรการห้ามเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟภายในสถานบันเทิงอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้เกิดอันตรายจากอัคคีภัย โดยดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ให้มีการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้ง จัดเจ้าหน้าที่และวางระบบสื่อสารสมาชิกอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมความพร้อมตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว และกำชับให้ตรวจตราพื้นที่ชุมนุมชน สถานประกอบการ สถานบันเทิง อาคารหรือสถานที่ที่วัสดุสิ่งของภายใน พร้อมให้ตรวจตราเส้นทางสัญจร โดยเฉพาะพื้นที่จัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลฯ อำนวยความสะดวก จัดระเบียบการจราจร รวมถึงการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนที่มาร่วมงานเฉลิมฉลองเทศกาลฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
WHO แฉไทยตายอุบัติเหตุสูงที่ ๑๐๖ โลก - อุบัติเหตุเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของประเทศไทย นอกจากผลกระทบทางสังคมแล้ว ยังส่งผลทางด้านเศรษฐกิจ เพราะทำให้เกิดการสูญเสียมูลค่ากว่า ๒ แสนล้านบาทต่อปี องค์การอนามัยโลก ระบุว่า ไทยมีผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับที่ ๑๐๖ แม้ไทยจะได้ร่วมลงนามในปฏิญญามอสโกเมื่อปี ๒๕๕๒ ที่จะรณรงค์ทศวรรษถนนปลอดภัย เพื่อลดผู้เสียชีวิตถึงร้อย ๕๐ และยังมีการผลักดันที่จะลดอุบัติเหตุเป็นวาระแห่งชาติของไทย ที่ระบุในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนเป็นแผนแม่บท โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ว่าในปีนี้พบว่า การรณรงค์นั้นยังไม่ทำอย่างต่อเนื่อง หรือว่ามีการขับเคลื่อนเท่าที่ควร ซึ่งปัจจุบันคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ๓๕ คนต่อ ๑ วัน โดยผู้ชายนั้นเสียชีวิตมากกว่าผู้หญิงถึง ๔ เท่า ส่วนผู้ที่บาดเจ็บจะมีอายุต่ำกว่า ๒๕ คิดเป็นร้อยละ ๔๐ ในช่วงวันหยุดยาวหลายภาคส่วนจึงมีการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันลดอุบัติเหตุ โดยผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในไทยคิดเป็นเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ ๑๒,๐๐๐ คน ซึ่งไม่นับรวมการบาดเจ็บ และพิการอีก ๑ ล้านคนต่อปี คิดเป็นความสูญเสียถึงร้อยละ ๒.๘๑ ของการเติบโตของเศรษฐกิจ(บ้านเมืองออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๘ ธ.ค.๒๕๕๓)
เพิ่มเติม เว็บไซต์: ไม่ระบุ อีเมล์ที่ติดต่อได้: ไม่ระบุ โทรศัพท์: ไม่ระบุ ผู้ติดต่อ/รับเรื่อง: ไม่ระบุ ที่มาของข่าว: บ้านเมืองออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๘ ธ.ค.๒๕๕๓ ผู้ฝากประกาศ: ไม่ระบุ วันที่โพสต์: 30 ธันวาคม 2553

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กรุงไทยเพิ่มอักษรเบรลล์ที่เครื่องATM อำนวยความสะดวกให้คนตาบอด 29 ธันวาคม 2553

ภาพ ตู้ATM ของธนากรุงไทย

นางอมรา กลับประทุม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และบริการจัดการทางการเงิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์การเป็นธนาคารแสนสะดวก ที่มุ่งหวังครองอันดับหนึ่งในใจของลูกค้า ธนาคารจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ เพื่อสนองตอบทุกความต้องการของลูกค้า ทำให้ธนาคารมีบริการทางการเงินที่หลากหลายและครบวงจร รวมทั้งเครือข่ายที่กว้างขวาง โดยมีเครื่อง ATM และ เครื่อง ADM กว่า ๘,๐๐๐ เครื่องทั่วประเทศ และมีภาษาให้ลูกค้าเลือกทำธุรกรรมถึง ๔ ภาษา ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาพม่า โดย ติดตั้งอยู่ ในเขตที่มีแรงงานพม่า หนาแน่น จำนวนกว่า ๒๐ จุด ทั้งที่สาขาและเขตนิคมอุตสาหกรรม ในจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดสงขลา
นางอมรา กล่าวอีกว่า ในปีหน้าธนาคารมีแผนจะเพิ่มเสียงเตือนในเครื่อง ATM ทุกเครื่อง โดยจะถามย้ำข้อมูลที่ลูกค้าทำธุรกรรมโอนเงินไปยังบัญชีอื่น เพื่อเพิ่มความรอบคอบและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอีกครั้ง ป้องกันการทุจริตและสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้าที่ใช้บริการ นอกจากนี้ ธนาคารยังจะ พัฒนาระบบการทำงานของเครื่อง ATM โดยเพิ่มตัวอักษรเบรลล์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมให้กับผู้พิการทางสายตาอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อให้การดูแลลูกค้าทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง (กรุงเทพธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๘ ธ.ค.๒๕๕๓)
เพิ่มเติม เว็บไซต์: ไม่ระบุ อีเมล์ที่ติดต่อได้: ไม่ระบุ โทรศัพท์: ไม่ระบุ ผู้ติดต่อ/รับเรื่อง: ไม่ระบุ ที่มาของข่าว: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๘ ธ.ค.๒๕๕๓ ผู้ฝากประกาศ: ไม่ระบุ วันที่โพสต์: 29 ธันวาคม 2553

กทม.ขยายเวลาค่าโดยสาร ๑๐ บ.BRT อีก ๖ เดือน...คนพิการฟรี 28 ธันวาคม 2553


โฆษก กทม. เผยต่ออายุค่าโดยสารรถ BRT ๑๐ บาทตลอดสาย ไปอีก ๖ เดือน เพื่อกระตุ้นให้คนมาใช้บริการมากขึ้น นายเจตน์ โสภิษฐ์พงศธร โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังการประชุมผู้บริหาร กทม.ว่า ที่ประชุมคณะผู้บริหาร กทม. เห็นชอบให้ขยายเวลาการเก็บค่าโดยสารรถประจำทางด่วนพิเศษวิ่งชิดเกาะกลาง (BRT) สายสาทร - ราชพฤกษ์ ในอัตรา ๑๐ บาทตลอดสาย ออกไปอีก ๖ เดือน จากเดิมที่ กทม. ได้ทดลองจัดเก็บในอัตรา ๑๐ บาทตลอดสาย ตั้งแต่วันที่ ๑ ต.ค. ที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับการติดตั้งระบบตั๋วและระบบอาณัติสัญญาณให้เสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปี ๕๓ และมีแผนการเตรียมเก็บค่าโดยสารตามระยะทางในอัตรา ๑๒ - ๒๐ บาท ตั้งแต่วันที่ ๑ ม.ค. ๕๔ เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล
นายเจตน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กทม.ยังยกเว้นค่าโดยสารให้กับบุคคลทุพพลภาพ (คนพิการ) นักเรียนในเครื่องแบบ พระภิกษุ สามเณร และลดหย่อนค่าโดยสารครึ่งราคาจาก ๑๐ บาทตลอดสาย เหลือ ๕ บาท ให้กับนิสิตนักศึกษาที่ศึกษาไม่เกินระดับปริญญาตรี และอายุไม่เกิน ๒๕ ปีบริบูรณ์ ข้าราชการ ลูกจ้าง และข้าราชการบำนาญของ กทม. ด้วย โดยปัจจุบันนี้ จำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการรถ BRT ในวันธรรมดาประมาณ ๑๓,๗๗๕ คนต่อวัน และวันหยุดราชการประมาณ ๕,๗๙๙ คนต่อวัน และมีแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารคงที่ (ไอเอ็นเอ็นออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๗ ธ.ค.๒๕๕๓)
เพิ่มเติม เว็บไซต์: ไม่ระบุ อีเมล์ที่ติดต่อได้: ไม่ระบุ โทรศัพท์: ไม่ระบุ ผู้ติดต่อ/รับเรื่อง: ไม่ระบุ ที่มาของข่าว: ไอเอ็นเอ็นออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๗ ธ.ค.๒๕๕๓ ผู้ฝากประกาศ: ไม่ระบุ วันที่โพสต์: 28 ธันวาคม 2553

พิมพ์สลากเพิ่ม ๔ล้านฉบับ ปีใหม่-ตรุษจีน 27 ธันวาคม 2553

ภาพ แผงลอตเตอรี่

กองสลากฯ เตรียมพิมพ์ลอตเตอรี่เพิ่ม ๔ ล้านฉบับ รับช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน โดยจะเพิ่มในส่วนของสลากการกุศล ผอ.สลากฯ อ้างเพื่อกดราคาไม่ให้พุ่งเกินคู่ละ ๙๐ บาท หลังพบพฤติกรรมคนไทยชอบเสี่ยงโชครับเทศกาล
เมื่อวันที่ ๒๔ ธ.ค. นายวันชัย สุระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯ จะพิมพ์สลากเพิ่มอีก ๔ ล้านฉบับในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง เพื่อรองรับความต้องการของประชาชน โดยจำนวนสลากที่พิมพ์เพิ่มขึ้น จะมาจากการเพิ่มสลากการกุศล ที่รายได้มอบให้กับองค์กรการกุศลและสาธารณะ ซึ่งตามปกติสลากประเภทนี้จะพิมพ์เพื่อจำหน่ายงวดละ ๑๔ ล้านฉบับ ก็จะเพิ่มเป็น ๑๘ ล้านฉบับ โดยจะปรับเพิ่มในจำนวนดังกล่าว เป็นระยะเวลา ๖ งวดจนถึงเทศกาลตรุษจีน ส่วนสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จัดพิมพ์งวดละ ๕๐ ล้านฉบับไม่มีการพิมพ์เพิ่มรวมแล้วจะมีการพิมพ์สลากที่เป็นสลากกินแบ่ง รัฐบาล หรือสลากการกุศลทั้งหมด ๖๘ ล้านฉบับ จากปัจจุบันพิมพ์อยู่ที่๖๔ล้านฉบับ
นายวันชัย กล่าวต่อว่า การเพิ่มจำนวนสลากดังกล่าว เพื่อลดแรงกดดันต่อราคาขายปลีกสลาก ที่มักปรับตัวสูงขึ้นในช่วงใกล้ปีใหม่และเทศกาลตรุษจีน ปัจจุบันราคาขายส่งอยู่ที่ประมาณ ๘๕ บาท และราคาปลีกพุ่งไปแตะ ๑๐๐-๑๑๐ บาท ขณะที่ทางสำนักงานสลากฯ กำหนดให้ขายในราคา ๔๐ บาทต่อฉบับ หรือคู่ละ ๘๐ บาท ซึ่งในกรณีนี้ ผู้ค้าสลากที่มีโคตาจะได้รับส่วนลดจากราคาขายปลีกที่กำหนด ๗-๙% ซึ่งถือเป็นส่วนลดมีกำไรพอสมควรอยู่แล้ว ทำให้การขายสลากเกินราคาเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม ในช่วยเทศกาลปีใหม่และตรุษจีนของทุกปี ราคาขายปลีกอาจจะส่งจะพุ่งสูงเกินกว่าคู่ละ ๑๐๐ บาท ไปแตะที่ราคา ๑๑๐-๑๒๐ บาทก็มี ซึ่งหมายความว่า จะมีการปั่นราคาขายปลีกจากร้านค้า หรือพ่อค้าปลีกที่เดินเร่ขาย ทำให้สำนักงานสลากฯ ตัดสินใจพิมพ์สลากเพิ่มอีก ๔ ล้านฉบับ เพื่อลดแรงกดดันของราคา โดยคาดว่า ราคาสลากสำหรับเลขที่ไม่ดัง ราคาขายปลีกน่าจะอยู่ที่ ๘๕-๙๐ บาท และราคาขายส่งจากแผนหรือร้านใหญ่จะอยู่ที่ ๘๐ บาท ส่วนเลขดังราคาไม่น่าเกิน ๑๐๐ บาท
นอกจากนี้ อยากจะฝากไปยังพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ว่าอย่าได้ใช้เด็กเล็กช่วยเลือกสลากให้ เพราะความเชื่อที่ว่าเด็กจะนำโชคมาให้ ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับโชคของแต่ละบุคคล บางคนซื้อใบเดียวก็สามารถถูกรางวัลที่หนึ่งได้ แต่การใช้เด็กเลือกซื้อสลากอาจเป็นการสร้างนิสัยที่ไม่ดีตั้งแต่เล็กๆ.(ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๕ ธ.ค. ๒๕๕๓)
เพิ่มเติม เว็บไซต์: ไม่ระบุ อีเมล์ที่ติดต่อได้: ไม่ระบุ โทรศัพท์: ไม่ระบุ ผู้ติดต่อ/รับเรื่อง: ไม่ระบุ ที่มาของข่าว: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๕ ธ.ค. ๒๕๕๓ ผู้ฝากประกาศ: ไม่ระบุ วันที่โพสต์: 27 ธันวาคม 2553

คนไทยต้องการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสวัสดิการดูแลคนพิการ 27 ธันวาคม 2553


นางวรวรรณ ชาญด้วยวิทย์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านหลักประกันทางสังคม สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เปิดเผยผลการศึกษาหัวข้อ การสร้างระบบสวัสดิการพื้นฐาน: ค่าใช้จ่ายระบบสวัสดิการสังคมที่คนไทยต้องการ โดยระบุว่า ระบบสวัสดิการสังคมเป็นโครงสร้างพื้นฐานเชิงสังคมที่รัฐควรจัดให้แก่ประชาชนเพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่ชีวิตของประชาชนทุกวัย จากการสำรวจความเห็นประชาชนทั่วประเทศและการทำประชาเสวนา พบว่า ประชาชนไทยมีความต้องการสวัสดิการสังคมตั้งแต่เกิดจนตายและต้องการให้เป็นสวัสดิการแบบถ้วนหน้า โดยที่สวัสดิการด้านการศึกษาและสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็นว่าสำคัญมากที่สุด ในด้านการดำเนินการสวัสดิการสังคม ประชากรส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลกลางเป็นผู้ดำเนินการโดยสัดส่วนความเห็นของประชาชนที่ต้องการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการมากที่สุด คือ สวัสดิการด้านการดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และด้านการส่งเสริมสุขภาพประชาชนประมาณร้อยละ ๗๐ เห็นว่าจะไม่ต่อต้านการขึ้นภาษีถ้ารัฐนำเงินรายได้ภาษีนั้นมาใช้จ่ายเพื่อสวัสดิการสังคม ส่วนค่าใช้จ่ายเพื่อสวัสดิการสังคมในอนาคตจะมากเพียงใดขึ้นกับสวัสดิการด้านสุขภาพว่าต้องการให้พัฒนาไปเป็นแบบใด
ถ้าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเท่ากับร้อยละ ๒ ต่อปี ปี ๒๕๗๐ ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาและการสงเคราะห์บุตรจะคิดเป็นร้อยละ ๒.๔ ของ GDP ค่าใช้จ่ายเพื่อสุขภาพถ้วนหน้าแบบเดียวกับประกันสังคมจะเป็นร้อยละ ๑.๙ ของ GDP ปัญหาสำคัญของสวัสดิการสังคมของไทยในอนาคตไม่ใช่เรื่องค่าใช้จ่ายแต่เป็นความขาดระบบ เราพัฒนาการประกันสุขภาพและหลักประกันด้านรายได้สำหรับผู้สูงอายุให้เป็นแนวดิ่ง โดยดูแลคนไทยแยกเป็น ๓ กลุ่มคือ ข้าราชการ ลูกจ้างเอกชน และประชาชนที่เหลือจากสองกลุ่มแรก แต่ละแนวขาดความสอดคล้องกันและขาดความเป็นธรรม ความเสี่ยงในการเจ็บป่วยและความเสี่ยงในยามชราภาพของคนไทยเหมือนกันแต่ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกันจากรัฐ ไทยขาดกลไกที่จะคอยดูและและกำกับเพื่อให้สวัสดิการสังคมมีความเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ มีความเป็นธรรม และไว้ใจได้(แนวหน้าออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๗ ธ.ค.๒๕๕๓)
เพิ่มเติม เว็บไซต์: ไม่ระบุ อีเมล์ที่ติดต่อได้: ไม่ระบุ โทรศัพท์: ไม่ระบุ ผู้ติดต่อ/รับเรื่อง: ไม่ระบุ ที่มาของข่าว: แนวหน้าออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๗ ธ.ค.๒๕๕๓ ผู้ฝากประกาศ: ไม่ระบุ วันที่โพสต์: 27 ธันวาคม 2553

เครื่องช่วยการมองเห็นสำหรับคนตาบอด

ภาพ นายสรุจ อังควิณิชย์สุข, นายสุทัศน์ รงรอง และ น.ส.จุฑาพิมพ์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ จากเครื่องช่วยการมองเห็นสำหรับคนตาบอด

“เครื่อง Braille Eye จะช่วยให้ผู้พิการทางสายตา สามารถรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับคนปกติ และในอนาคตจะมีประโยชน์มาก ไม่เพียงเฉพาะผู้พิการทางสายตาในประเทศไทยเท่านั้น ผมว่าจะมีประโยชน์กับผู้พิการทั่วโลก” นายสรุจ อังควิณิชย์สุข, นายสุทัศน์ รงรอง และ น.ส.จุฑาพิมพ์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวถึงเครื่องมือที่พวกเขาประดิษฐ์ขึ้น และได้รับรางวัลชนะเลิศประเภท ไอเดียซี้ด หรือ เมล็ดพันธุ์ความคิด ในโครงการ “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ ๒๐๑๐ ครั้งที่ ๑” ภายใต้แนวคิด “รวมความคิด ชาติเชื้อไทย” ซึ่งเป็นโครงการร่วมกันระหว่าง บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหา วิทยาลัย และสำนักข่าวต่างประเทศ CNBC
Braille Eye จะแบ่งออกเป็น ๒ ส่วนใหญ่ ๆ คือ กล้องและจอมอ นิเตอร์แสดงผล โดยเมื่อผู้พิการติด กล้องไว้บนศีรษะบริเวณหน้าผาก กล้องจะทำหน้าที่เป็นดวงตาจับภาพ และส่งสัญญาณไปที่มอนิเตอร์ โดยที่มอนิเตอร์จะแสดงผลในลักษณะเดียวกับอักษรเบรลล์ คือ จะมีปุ่มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นมาเหมือนกับภาพที่กล้องเห็น เพื่อให้ผู้ตาบอดสามารถ ใช้มือลูบและรับรู้จากความรู้สึก ซึ่งจะแสดง ผลแบบเรียลไทม์ เครื่องนี้ยังสามารถทำให้ คนตาบอดเรียนรู้ภาษาได้ทุกภาษาทั่วโลก เนื่องจากเครื่องจะแสดงผลเป็นตัวอักษรตามที่ กล้องเห็นด้วย ราคาเครื่องต้นแบบจะตกราว ๓๐๐,๐๐๐ บาท
สำหรับการประกวด “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ ๒๐๑๐” มีทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ๔๕ ทีม จากจำนวนผู้เข้าร่วมทั้งหมด ๗๖๑ ทีมทั่วประเทศ แบ่งออกเป็นประเภทเมล็ดพันธุ์ความคิด แนวคิดแผนธุรกิจนวัตกรรม จำนวน ๒๓ ทีมจากทั้งหมด ๕๘๕ ทีม และ สุดยอดนวัตกรรม ผลงานนวัตกรรมที่มีการสร้างขึ้นจริง จำนวน ๒๒ ทีมจากทั้งหมด ๑๗๖ ทีม....โดย Mr.J (เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๖ ธ.ค.๒๕๕๓)
เพิ่มเติม เว็บไซต์: ไม่ระบุ อีเมล์ที่ติดต่อได้: ไม่ระบุ โทรศัพท์: ไม่ระบุ ผู้ติดต่อ/รับเรื่อง: ไม่ระบุ ที่มาของข่าว: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๖ ธ.ค.๒๕๕๓ ผู้ฝากประกาศ: ไม่ระบุ วันที่โพสต์: 26 ธันวาคม 2553

ขนมจีนน้ำยาป่า

สูตรอาหารไทย : ขนมจีนน้ำยาป่า
นมจีนน้ำยาป่า
ส่วนผสม


* น้ำปลาร้าต้มสุก 4 ถ้วยตวง
* พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด (ปรับเพิ่ม/ลด ตามความชอบ)
* ตะไคร้ซอย 1/4 ถ้วยตวง
* ข่า 4 แว่น
* หอมแดง 7 หัว
* กระเทียม 2 หัว
* ปลาช่อน 1 ตัว (ล้างทำความสะอาด, ขอดเกล็ดและควักไส้ออก ต้มจนเดือดและแกะเอาแต่เนื้อปลา)
* ขนมจีน 800 กรัม
* ไข่ต้มและผักสดต่างๆ ถั่วฝักยาว, ถั่วงอก, ใบแมงลัก, แตงกวา, ผักกาด
วิธีทำ
1. ต้มน้ำปลาร้ากับพริกขี้หนูแห้ง, ตะไคร้ซอย, ข่า, หอมแดงและกระเทียม จนน้ำเดือด จึงนำไปกรองแยกน้ำและเครื่องออกจากกัน
2. นำพริก, ตะไคร้, ข่า, หอมแดงและกระเทียมที่แยกออกมาไปโขลกกับเนื้อปลาจนละเอียดและเข้ากัน
3. นำน้ำปลาร้าที่กรองไว้ไปต้มในหม้ออีกครั้ง จากนั้นจึงใส่น้ำพริกที่โขลกในขั้นตอนที่ 2 ลงไปละลายในน้ำปลาร้า ต้มจนเดือด ถ้ารสอ่อนเค็มก็เติมเกลือลงไปนิดหน่อย เสร็จแล้วปิดไฟ ตักน้ำยาป่าใส่ถ้วย
4. จัดเส้นขนมจีนใส่จาน เสริฟทันทีขณะน้ำยายังร้อนๆพร้อมผักสดและไข่ต้ม


วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553

แกงส้มชอมไหลบัวกุ้ง

เครื่องปรุง

  • น้ำ 6 ถ้วย น้ำพริกแกงส้มที่โขลก 1/2 ถ้วย
  • น้ำปลา 1/4 ถ้วย + 1ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตางปีบ 1 ช้อนโต๊ะ + 2ช้อนชา
  • น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย +2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • ไหลบัวเด็ดท่อนขนาด 2 นิ้ว 200 กรัม
  • กุ้งแชบ้วย ตัวละ 20 กรัมแกะเปลือกเด้ดหัวไว้หางผ่าหลัง
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ                                        เครื่องแกง
  • พริกแห้งเมล็ดใหญ่ทั้งเมล็ดแช่น้ำจนนุ่ม 7 เม็ด
  • พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำจนนุ่ม  25 เม็ด
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • หอมแดงหั่น 7 หัว
  • กระชายขูดเปลือกหั่น 3ช้อนโต๊ะ
  • กะปิ 1ช้อนชา+1/2                                                                                                ใข่ทอดชอม
  • ใข่ไก่ 3 ฟอง
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย                                                                                                            วิธีทำ                                                                       
  • ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกพริกแห้งเม็ดใหญ่ พริกขี้หนู และเกลือ เข้าด้วยกัน ให้ละเอียด เข้ากันดีแล้วตักใส่หม้อ
  • ทำใข่ทอดชอมโดยผสมใข่กับชอมเข้าด้วยกันในชาม คนให้ทั่ว ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟ กลางพอร้อน ใส่ใข่ชอมลงทอดให้เป็นแผ่นบาง ทอดจนสุกทั้งสองด้าน ปิดไฟ ตักขึ้น หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดพอคำ
  • ใส่น้ำลงในหม้อพริกแกงส้มที่โขลก คนให้ทัวตั้งบนไฟกลางๆ  เคี่ยวให้เดือดสักครู่ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล มะขามเปียก และเกลือ ชิมรส ให้ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ใส่ใหลบัว เคี่ยวพอสุก ใส่กุ้ง และน้ำมะนาว พอกุ้งสุก ปิดไฟ
  • ใส่ใข่ทอดชอมลงใน หม้อไฟ หรือ ชาม ตักแกงส้มไหลบัวใส่ เสิร์ฟร้อนๆ 

สัตว์เลี้ยงของฉัน

สัตว์เลี้ยงของฉันตัวที่ 2
สัตว์เลี้ยงของฉันตัวที่ 2ดิฉันก็ไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงอีกเหมือนกันค่ะคือแบบว่า มาหาเราเองแล้วไม่ยอมไป สัตว์เลี้ยงตัวที่ 2นี่คือนก นะคะ เป็นนกเอี้ยงค่ะนกเอี้ยงดำแสนรู้มาก
ปล่อยได้ไม่บินไปใหนคือว่าเลี้ยงโดยไม่ต้องขังกรงค่ะ แต่ว่าดิฉันไม่ได้ไปพรากลูกนกฉกลูกกามานะคะ นกเอี้ยงของดิฉันตัวนี้บินมาเองค่ะ บินมาแล้วไม่ยอมบินกลับ บินมาอยู่บนบ้านดิฉันเลย แล้วนกเอี้ยงตัวนี้ก็ไม่ใช่ลูกนกเพิ่งหัดบินนะคะเป็นก หนุ่มคะ
น่ารักมาก พอเขาไม่ไปดิฉันก็ต้องเลี้ยงไว้ แต่ว่านกตัวนี้สิ มันรักดิฉันมาก ใครเข้าใกล้ดิฉันไม่ได้เลย มันจะหวง แล้วเวลาใครแกล้งดิฉันนะแค่ดิฉันร้องให้เท่านั้นล่ะ มันจะเข้าไปจิก คนแกล้งดิฉันทันที อ้อตอนฉันได้นกเอี้ยงตัวนี้มาเลี้ยงตอนนั้นฉันก็อายุได้ประมาณ 8-9 ปี ค่ะ รู้สึกว่าจะได้มาพร้อมกับเจ้าลูกกรอก หมาตัวแรก ของดิฉัน ยังมีเรื่องเล่าถึงความแสนรู้ของเจ้านกเอี้ยงอีกค่ะ เจ้านกเอี้ยงตัวนี้นะคะเวลาดิฉันไปโรงเรียนเจ้าเอี้ยงมันก็จะบินไปหากินในสวนป่าข้างบ้านคคือว่าแม่เขาจะไม่ใส่กรงเลยปล่อยเป็นอิสระ เวลาโรงเรียนเลิก ดิฉันกลับบ้าน แค่ดิฉันตะโกนดังๆว่าไอ้เอี้ยงๆๆกลับมาแล้วนะเท่านั้นล่ะ เจ้าเอี้ยงจะอยู่ที่ใหนก็บิน พรึบๆ กลับมาเกาะใหล่ดิฉันแล้วล่ะค่ะ แต่ความแสนรู้ของเจ้าเอี้ยงยังไม่มีเท่านี้นะคะ เจ้าเอี้ยงบินไปหาดิฉันที่โรงเรียนถูกค่ะ พอบินไปถึงโรงเรียน ร้องเรียกชื่อดิฉัน ที่บนรั้วของโรงเรียน ผู้ปกครองที่มารับเด็กๆ ต่างก็มองเจ้าเอี้ยงแสนรู้กันใหญ่ ดิฉันล่ะรักเจ้าเอี้ยยงน้อยตัวนี้จัง อ้อมีอยู่วันนึงดิฉันกลับมาจากโรงเรียนฉันก็ตะโกนร้องหาเจ้าเอี้ยงเหมือนเคย แต่เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ ดิฉันตะโกนเรียกจนไม่มีเสียงเจ้าเอี้ยงก็ไม่บินมาทำยังไงดีล่ะ หรือว่าเจ้าเอี้ยงจะหนีเราไป แต่ว่า เป็นไปไม่ได้ หรือว่าหลงทาง ก็เป็นไปไม่ได้อีกน่ะแหละ เพราะว่า เจ้าเอี้ยงมันอยู่ในป่าหมู่ 7 มันบินไปแทบทุกที่ ทำยังไงดีล่ะทีนี้ ดิฉันก็ต้องออกเดินตามหาเจ้าเอี้ยงแล้ว เท้าก็เดินปากก็ตะโกนไอ้เอี้ยงๆไอ้เอี้ยง เงียบ ดิฉันเลยเดินไปอีกหมู่บ้านนึง แล้วก็ตะโกน เรียก จิ๊กๆๆเปี๊ยวๆ เสียงร้องของเจ้าเอี้ยงนี่นา อยู่ใหนนะ ดิฉันเดินตามเสียงไปเจ้าเอี้ยงโดนจับขังกรง อยู่บ้าน ของชาวบ้านแถวนั้น เจ้าเอี้ยงมันเห็นดิฉันมันดีใจบินเลาะกรงดิฉันเห็นนกของดิฉันดิฉันก็จะเอากลับบ้านแต่ว่า คนที่จับนกฉันไว้เขาไม่ให้ เขาบอกว่า นกก็เหมือนนก รู้ได้ยังไงว่าเป็นของฉัน ดิฉฉันก็บอกเขาไปว่าเดี๋ยวคอยดูนะ ถ้าน้าปล่อยนกตัวนี้ หนูจะไม่จับมัน แล้วให้น้าดูว่ามัน จะบินตามหนูกลับบ้านใหม ถ้าเจ้าเอี้ยงตัวนี้บินตามหนูกลับบ้านแสดงว่าเจ้าเอี้ยงตัวนี้เป็นของหนูนะ ตอนแรกขาจะไม่ยอมเขาบอกว่าถ้าปล่อยมันก็บินหนีน่ะสิ ทีนี้ล่ะหนูทั้งร้องให้และขอร้องเขาบอกว่าน้าขอนกหนูคืนเถอะ เขาเลยสงสาร(หรือรำคาญก็ไม่รู้)พอเขาปล่อยนกออกมาเท่านั้นล่ะเจ้าเอี้ยงนกของดิฉันก็บินมาเกาะบ่าเกาะใหล่ร้องเรียกชื่อฉันที่ข้างหูของเลยล่ะ
แต่ก็น่าเสียดายนะคะ เจ้าเอี้ยงมันอยู่กับดิฉันได้แค่ 4 ปีเอง เพราะว่าการที่เราไม่ได้เอาเขาใส่กรงนี่แหละ อยู่มาวันนึงฉันไม่อยู่บ้านกลับบ้านมาพี่สาวเอาเจ้าเอี้ยงมาให้ดู มันตายเสียแล้ว ฉันร้องไห้อยู่ 3วันเลยล่ะค่ะ แล้วดิฉันก็เป็นคนฝังเจ้าเอี้ยงกับมือเองเลยนะคะ เป็นอันว่าจบเรื่องเล่าสัตว์เลี้ยงตัวที่ 2นะคะ  ีล่ะ หรือว่าเจ้าเอี้ยงจะหนีเราไป แต่ว่า เป็นไปไม่ได้ หรือว่าหลงทาง ก็เป็นไปไม่ได้อีกน่ะแหละ เพราะว่า เจ้าเอี้ยงมันอยู่ในป

ผัดพริกขิงปลาช่อน

ผัดพริกขิงปลาช่อน
เครื่องปรุง

  • น้ำมันพืช
  • ปลาช่อน 2 ตัว ขนาด ตัวละ 450 กรัม แล่เนื้อหั่นพอคำ
  • น้ำพริกแกง
  • น้ำ 3/4 ถ้วย
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูดหั่นฝอย 1ช้อนโต๊ะ
  • พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นฝอย 
  •                                        
  • เครื่องแกง
  • พริกแห้งเมล็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำจนนุ่ม  7 เม็ด
  • เกลือ ข่าแก่หั่นละเอียด 1/2 ช้อนชา
  • ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1/2    ช้อนชา
  • รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา
  • กระเทียมไทย แกะเปลือกหั่น 1ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงหั่น 3 ช้อนโต๊ะ+กะปิ 1/2 ช้อนชา                                                                         วิธีทำ                                                                                                                 ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟปานกลางจนร้อน ใส่เนื้อปลาช่อนลงทอดให้เนื้อปลาสุกเหลืองทั่วแต่เนื้อด้านในสุกนุ่ม ตักขึ้นใส่พักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน ตักน้ำมันในกระทะที่ทอดปลาออกให้เหลือประมาณ 1/4 ถ้วย เปิดไฟร้อนปานกลางใส่น้ำพริกแกงที่โขลกลงผัดจนหอมเวลาผัดค่อยเติมน้ำ แล้วผัดให้หอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ชิมรสให้หวาน เค็ม ใส่เนื้อปลาช่อนทอดผัดคลุกเคล้าให้ทั่ว โรยใบมะกรูด และ พริกชี้ฟ้า หั่นฝอย ปิดไฟ ตักใส่จานตกแต่งด้วยใบมะกรูด พร้อมเสิร์ฟ